PHA TrainingPHA Training คืออะไร? วิธีฟิตหุ่นไว ที่คนยุคใหม่ห้ามพลาด

เคยรู้สึกไหมว่าเวลาออกกำลังกาย เรามักแยกส่วนบนกับส่วนล่าง หรือวันเล่นอก วันเล่นขา? แล้วถ้าเราบอกว่ามีวิธีออกกำลังที่ช่วยให้ทั้ง หัวใจทำงานดีขึ้น, เผาผลาญไขมันได้ไว และยัง สร้างกล้ามเนื้อแบบทั่วร่างกาย ไปพร้อมกันล่ะ? นั่นคือหัวใจของการฝึกที่เรียกว่า Peripheral Heart Action Training หรือเรียกสั้นๆ ว่า PHA PHA Training คืออะไร? PHA ย่อมาจาก Peripheral Heart Action ซึ่งเป็นรูปแบบการฝึกเวทผสมคาร์ดิโอที่ออกแบบให้ เลือดสูบฉีดจากส่วนบนของร่างกายไปยังส่วนล่าง และสลับกันอย่างต่อเนื่อง ง่ายๆ คือ คุณจะได้ฝึกสลับท่าแบบ “บน-ล่าง” เช่น การฝึกแบบนี้ทำให้หัวใจต้องทำงานมากขึ้น เพราะต้องสูบฉีดเลือดไปยังกล้ามเนื้อคนละส่วนสลับกันตลอดเวลา ส่งผลให้ เผาผลาญพลังงานได้ดี และ พัฒนาความแข็งแรงของหัวใจไปพร้อมๆ กับกล้ามเนื้อ ประโยชน์ของ PHA Training ตัวอย่างตาราง PHA แบบง่าย (มือใหม่ก็ทำได้) ทำทั้งหมด 3 รอบ พักระหว่างรอบ 1–2 นาที ท่าออกกำลังกาย … Read more

ไม่ต้องวิ่งก็แข็งแรงได้! รวมท่าออกกำลังกายเบา ๆ สำหรับวัยเกษียณ

บทความนี้นำเสนอท่าออกกำลังกายเบา ๆ ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ โดยเน้นความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการเสริมสร้างสุขภาพ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

จิตวิทยาการออกกำลังกาย ทำไมบางคนถึงรักษาวินัย ในการดูแลสุขภาพได้

บทความนี้จะพูดถึง “วินัยในการออกกำลังกาย” ทำไมบางคนถึงสามารถออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอได้ ในขณะที่อีกหลายคนล้มเลิกไปกลางทาง พร้อมหาวิธีพัฒนาวินัยเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

เริ่มต้นวิ่งอย่างไร ให้สุขภาพดี ไม่บาดเจ็บ

          เนื่องจากในเดือน เมษายน 2568 ทางไทยสุขได้มีกิจกรรมดีๆ อย่างการสะสมระยะวิ่ง ซึ่งจัดเป็นปีที่ 2 แล้ว ในปีที่ผ่านมาผลตอบรับดีมาก แต่ก็ยังมีบางท่านที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายขั้นต่ำของกิจกรรมได้          ในวันนี้เราเลยจะมาแนะนำการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่ถึงเดือนแล้ว เรามาดูกันว่า มือใหม่ที่อยากเริ่มวิ่งควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ให้ไม่บาดเจ็บ และยังสุขภาพที่ดีด้วย ทำไมต้องเข้าใจเรื่องการวิ่ง?          ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการวิ่งกันก่อน แม้ว่าการวิ่งจะดูเป็นกีฬาง่าย ๆ แต่จากงานวิจัยของสมาคมเวชศาสตร์การกีฬาออสเตรเลีย พบว่านักวิ่งกว่า 70% มีอาการบาดเจ็บภายใน 1 ปี และเมื่อเทียบเป็นอัตราการบาดเจ็บต่อ 1,000 ชั่วโมง การวิ่งอยู่ที่ 11% ซึ่งใกล้เคียงกับกีฬาบาสเก็ตบอล หรือสควอชโดยปกติ ถ้าอัตราการบาดเจ็บเกิน 5% ถือว่าสูง กีฬาที่มีการปะทะอย่างรักบี้อยู่ที่ 30% ส่วนการออกกำลังกายทั่วไป เช่น เทนนิส เวทเทรนนิ่ง อยู่ที่ประมาณ 5% และกีฬาหนัก ๆ อย่างยกน้ำหนักหรือครอสฟิตกลับต่ำกว่า 5% เพราะฉะนั้น ถ้าอยากวิ่งให้ปลอดภัย ต้องเรียนรู้และเตรียมตัวให้ดี ! มือใหม่หัดวิ่ง เตรียมตัวยังไงให้ปลอดภัย?          หลังจากเข้าใจพื้นฐานของการวิ่งแล้ว มาดูกันว่าก่อนจะออกวิ่งจริง ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้วิ่งได้อย่างปลอดภัย … Read more

ทำความรู้จักกับเพซ (Pace) ตัวเลขสำหรับคนที่เริ่มวิ่ง ควรรู้

          ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ เพซ (Pace) ว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร โดยเพซ คือหน่วยวัดความเร็วในการวิ่ง ที่บ่งบอกเวลาที่ใช้ต่อระยะ 1 กิโลเมตร เช่น เพซ 6 หมายถึง ใช้เวลา 6 นาทีในการวิ่ง 1 กิโลเมตร นั่นเอง ทำไมเราต้องใช้ เพซ (Pace) ทำไมเราไม่ใช้ กิโลเมตรต่อชั่วโมง           การใช้เพซเหมาะกับการวิ่งระยะไกล เพราะสะท้อนความเร็วจริงได้ดีกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงในระหว่างการวิ่ง อีกทั้งยังเป็นวิธีคำนวณเวลาได้อย่างง่าย เช่น เพซ 6 หมายถึงใช้เวลา 6 นาทีต่อกิโลเมตร นอกจากนี้ เพซช่วยให้นักวิ่งปรับตัวตามสภาพสนาม ตั้งเป้าหมายชัดเจน และใช้เป็นมาตรฐานในหลายการแข่งขันทั่วโลก ทำให้เปรียบเทียบสมรรถภาพ และจัดกลุ่มนักวิ่งได้อย่างเหมาะสม เพซเซอร์ในงานวิ่ง คือใคร ?          หลังจากที่เราเข้าใจความหมายของเพซแล้ว ต่อไปเรามาทำความรู้จักกับ เพซเซอร์ ซึ่งหมายถึงนักวิ่งที่ทำหน้าที่รักษาความเร็วตลอดเส้นทางการแข่งขัน เพื่อช่วยให้นักวิ่งคนอื่น ๆ วิ่งตามเป้าหมายเวลาที่กำหนด ซึ่งมีระยะเวลาหลากหลายแล้วแต่งานวิ่งจะจัด โดยตัวอย่างเช่น นักวิ่งเพซเซอร์ที่ 50 … Read more

เคล็ดลับออกกำลังกายอย่างไรให้มีความสุข จนคุณไม่อยากหยุด!

เคยรู้สึกไหมว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องน่าเบื่อ? ต้องฝืนใจลุกจากเตียงในตอนเช้า หรือรู้สึกเหมือนกำลังถูกบังคับให้ทำ? ความจริงแล้ว การออกกำลังกายสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เต็มไปด้วยความสนุกและความสุขได้ แค่คุณรู้วิธีปรับมุมมองและเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง! 1. ค้นหากิจกรรมที่ “ใช่” สำหรับคุณ ใครบอกว่าการออกกำลังกายต้องวิ่งอย่างเดียว? ลองนึกถึงกิจกรรมที่คุณชอบจริง ๆ เช่น เต้นแบบไม่ต้องแคร์สายตาใคร โยคะท่ากิ๊บเก๋ เล่นบาสกับเพื่อน หรือเดินเล่นกับสัตว์เลี้ยง การทำสิ่งที่รักจะทำให้หัวใจคุณเต้นแรงด้วยความสุขมากกว่าความเหนื่อย 2. ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ แต่ทรงพลัง แทนที่จะตั้งเป้าหมายใหญ่จนรู้สึกกดดัน ลองเริ่มจากเป้าหมายง่าย ๆ เช่น เดินให้ได้ 8,000 ก้าวต่อวัน หรือออกกำลังกายแค่ 10-15 นาที เป้าหมายเล็ก ๆ นี้จะช่วยสร้างความรู้สึกสำเร็จในทุกวัน ทำให้คุณอยากไปต่อโดยไม่รู้ตัว 3. แอบออกกำลังกายแบบเนียน ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่มีเวลา? ไม่ใช่ปัญหา! ลองเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ จอดรถให้ไกลขึ้นอีกนิด หรือแม้แต่ยืดเหยียดขณะดูซีรีส์โปรด การแทรกการออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยให้คุณฟิตได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเพิ่ม 4. ให้รางวัลตัวเองด้วยการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ การออกกำลังกายไม่ใช่แค่การเคลื่อนไหว แต่รวมถึงการให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอด้วย การนอนหลับที่ดีไม่เพียงแค่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย แต่ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังบวกในวันใหม่ 5. หาเพื่อนร่วมทางในการออกกำลังกาย … Read more

“ขยับแค่ไหนถึงจะพอ” คำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี

การเคลื่อนไหวร่างกายหรือการออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การทำกิจกรรมทางกายไม่เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพจิตและการควบคุมน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม คำถามที่สำคัญคือ “ขยับแค่ไหน ถึงจะพอ?” การเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้จำกัดเฉพาะการออกกำลังกาย แต่รวมถึงการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันและการทำงานด้วย การทำกิจกรรมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอช่วยส่งเสริมสุขภาพและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดในสมองตีบ โรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ โรคอ้วน โรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่ การมีพฤติกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายและส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แนวทางการออกกำลังกายที่เหมาะสม 1. ความเข้มข้นของการออกกำลังกาย สำหรับการออกกำลังกายระดับปานกลาง (Moderate-intensity activity) เช่น เดินเร็ว ขี่จักรยาน หรือทำสวน ควรทำอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ สำหรับการออกกำลังกายระดับสูง (Vigorous-intensity activity) เช่น วิ่ง แอโรบิก หรือกีฬาเข้มข้น ควรทำอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ ควรรวมการออกกำลังกายที่สร้างกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ 2. การผสมผสานระหว่างประเภทของการออกกำลังกาย ควรผสมผสานการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic exercise) และการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (Strength training) เพื่อให้ร่างกายได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ 3. … Read more

ยุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย? 5 เคล็ดลับเพิ่มกิจกรรมทางกาย

การรักษาสุขภาพที่ดีต้องขึ้นอยู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม แต่ในชีวิตประจำวันที่ต้องทำงานหนักและยุ่งเหยิง บางครั้งการหาเวลาเพื่อออกกำลังกายอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ดังนั้น เรามีเคล็ดลับ 5 ข้อที่ช่วยเพิ่มกิจกรรมทางกายให้แก่คุณง่ายๆ สามารถทำเองได้ 1. ตั้งเป้าหมายและวางแผน การวางแผนเป้าหมายในการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณมีการจัดการเวลาได้มากขึ้น กำหนดเวลาที่เหมาะสมในแต่ละวันที่สามารถทำกิจกรรมออกกำลังกายได้ เช่น ตอนเช้าหลังตื่นนอนหรือตอนเย็นหลังเลิกงาน 2. ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ ใช้แอพพลิเคชั่นหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวที่ช่วยให้คุณสามารถออกกำลังกายได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น แอพพลิเคชั่นติดตามการเดิน การวิ่งหรือการฟิตเนส หรือนาฬิกาข้อมือที่มีฟังก์ชันตรวจสุขภาพ 3. แบ่งกิจกรรมออกเป็นส่วนย่อย หากคุณไม่สามารถหาเวลาที่ยืดหยุ่นได้ในแต่ละวัน ลองแบ่งกิจกรรมออกเป็นส่วนย่อยที่สั้น ๆ เช่น 10-15 นาที บางครั้งก็เพียงพอที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีพลังงาน 4. เลือกกิจกรรมที่เพลิดเพลิน การเลือกกิจกรรมที่คุณเพลิดเพลินและไม่ใช่ภาระจะช่วยให้คุณมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้นในการออกกำลังกาย เช่น การเต้นรำ, โยคะ, หรือการเดินป่า 5. ใช้โอกาสในชีวิตประจำวัน ใช้โอกาสในชีวิตประจำวันให้เป็นโอกาสในการออกกำลังกาย เช่น การเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟท์, การเดินไปยังสถานที่ใกล้เคียงในเวลากลางวัน, หรือการทำงานออกแรงที่ทำให้คุณได้เคลื่อนไหวมากขึ้น การยุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกายไม่ควรเป็นเหตุผลในการทำให้คุณสูญเสียการดูแลสุขภาพ ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คุณสามารถเพิ่มความกระฉับกระเฉงในการออกกำลังกายได้และรักษาสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน อ้างอิง ThaiSook

หลักการพื้นฐานที่ควรคำนึงถึงในการออกกำลังกาย

หลักการพื้นฐานที่ควรคำนึงถึงในการออกกำลังกายที่สำคัญในการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือกิจกรรมอื่น ๆ นั้นมีหลักการพื้นฐานที่ควรคำนึงถึง เพื่อให้การฝึกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด ดังนี้: ข้อห้าม และข้อควรระวังในการยืดแหยียดกล้ามเนื้อ อ้างอิง

การวิ่งช้า วิ่งเร็ว กิจกรรมที่เพิ่มสุขภาพและเผาผลาญไขมัน

การวิ่งเป็นกิจกรรมที่ง่ายและไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย แต่ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนหลาย ๆ คนที่ต้องการดูแลสุขภาพและความฟิตของร่างกาย ในบทความนี้เราจะพูดเกี่ยวกับการวิ่ง และเน้นไปที่การวิ่งช้าและการวิ่งเร็ว หนึ่งในประโยชน์สำคัญของการวิ่งคือการพัฒนาการทำงานของหัวใจและปอด การวิ่งช่วยเสริมสร้างระบบหลอดเลือด ลดความดันโลหิต และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ การเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายก็เป็นผลมาจากการวิ่งอย่างต่อเนื่อง การวิ่งยังมีผลที่ดีต่อกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา การวิ่งช้าๆ หรือการวิ่งไปพร้อมๆ กับการเพิ่มความเร็ว (Interval Training) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน และพัฒนาความฟิตของร่างกายได้มากขึ้น การวิ่งช้าหรือวิ่งเร็วแตกต่างกันอย่างไร? แล้วอันไหนดีกว่ากัน? การวิ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับเป้าหมายของผู้วิ่งได้ การวิ่งช้าหรือเร็วมีผลมากน้อยขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น หากต้องการให้ได้ประโยชน์ทั้งสองด้าน ผู้วิ่งสามารถนำเอาหลักการของการฝึกแบบช้าสลับเร็วหรือ Interval Training มาใช้ โดยการสลับระหว่างการวิ่งช้าๆ และการวิ่งเร็วๆ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ทั้งการลดไขมันและการเพิ่มความฟิตของร่างกายได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหรือปัจจัยอื่นที่อาจมีผลกระทบจากการวิ่ง เช่น โรคหัวใจ ปัญหาการหายใจ หรือข้อเจ็บปวดทางกล้ามเนื้อ ควรปรึกษากับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะเริ่มต้นการวิ่ง เพื่อความปลอดภัยและการป้องกันภาวะบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการออกกำลังกาย อ้างอิง ThaiSook I 2566