แหล่งโปรตีนคุณภาพดีที่หาได้ง่ายใกล้ตัว เสริมกล้ามเนื้อแข็งแรงในชีวิตประจำวัน

ThaiSook I 2566 การรับประทานโปรตีนเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างและบำรุงร่างกายของเราให้แข็งแรงและสมบูรณ์ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ หรือเพียงแค่คนที่ต้องการรักษาสุขภาพที่ดี การรับประทานโปรตีนที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ นี่คือแหล่งโปรตีนที่คุณสามารถหาได้ง่ายๆ รอบตัวและเหมาะสมสำหรับทุกคน 7. อาหารเสริมโปรตีน หากคุณไม่สามารถรับประทานโปรตีนจากแหล่งอาหารธรรมชาติได้เพียงพอ อาหารเสริมโปรตีนอาจเป็นทางเลือกที่ดี ดังนั้น การคำนึงถึงแหล่งโปรตีนที่คุณภาพเพื่อสุขภาพที่ดีไม่จำเป็นต้องซับซ้อน การรับประทานอาหารที่มีความสมบูรณ์และครอบคลุมทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและพร้อมที่จะเผชิญกับทุกๆ วัน อ้างอิง ThaiSook I 2566

โปรตีนมีส่วนสำคัญกับร่างกายเราอย่างไร?

ThaiSook I 2566 โปรตีนเป็นหนึ่งในประเภทของสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการสำหรับการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย โปรตีนประกอบไปด้วยกรดอะมิโน (amino acids) มี 20 กรดอะมิโนที่มีบทบาทในการสร้างโปรตีน และมี 2 ประเภทหลักคือ กรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้ (non-essential amino acids) และกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการได้จากอาหาร (essential amino acids) เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างมันเอง โปรตีนสามารถพบได้ในอาหารหลายอย่าง เช่น เนื้อสัตว์, ไข่, ถั่ว, นม, และอาหารทะเล เลือกบริโภคโปรตีนจากแหล่งที่มีคุณภาพดีและควรรับโปรตีนตามปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการของร่างกาย โปรตีนมีส่วนสำคัญในร่างกายเราอะไรบ้าง อ้างอิง ThaiSook I 2566

ลงพุง ลดโรค

อ้วนลงพุง สัญญาณอันตรายของไขมันรอบเอวไม่ควรถูกละเลย เนื่องจากมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การเกิดไขมันรอบเอวโดยไม่รู้ตัวสามารถเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ เพื่อช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพดี 1. การดูแลสารอาหาร: การรักษาสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล เพื่อลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง และเพิ่มปริมาณผักและผลไม้ในอาหาร เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ 2. การออกกำลังกายเป็นประจำ: การทำกิจกรรมทางกายที่เน้นการเสริมกล้ามเนื้อและการเผาผลาญพลังงาน เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ช่วยลดไขมันรอบเอวและส่งเสริมสุขภาพทั่วไป 3. การลดการบริโภคน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่ม: การลดการบริโภคน้ำตาลในอาหารช่วยลดการสะสมไขมันรอบเอว และลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือด ดังนั้น การบริโภคแต่พอดีตามคำแนะนำด้านโภชนาการ 4. การนอนหลับที่เพียงพอ: การนอนหลับน้อยหรือมากเกินไปสามารถทำให้ระดับฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันรอบเอวได้ 5. การจัดการสุขภาพจิต: การลดความเครียดและความกังวล เพื่อลดการกินอาหารเพื่อลดความเครียด ที่อาจส่งผลให้ไขมันรอบเอวเพิ่มขึ้น อ้างอิง ThaiSook I 2566

การวิ่งช้า วิ่งเร็ว กิจกรรมที่เพิ่มสุขภาพและเผาผลาญไขมัน

การวิ่งเป็นกิจกรรมที่ง่ายและไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย แต่ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนหลาย ๆ คนที่ต้องการดูแลสุขภาพและความฟิตของร่างกาย ในบทความนี้เราจะพูดเกี่ยวกับการวิ่ง และเน้นไปที่การวิ่งช้าและการวิ่งเร็ว หนึ่งในประโยชน์สำคัญของการวิ่งคือการพัฒนาการทำงานของหัวใจและปอด การวิ่งช่วยเสริมสร้างระบบหลอดเลือด ลดความดันโลหิต และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ การเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายก็เป็นผลมาจากการวิ่งอย่างต่อเนื่อง การวิ่งยังมีผลที่ดีต่อกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา การวิ่งช้าๆ หรือการวิ่งไปพร้อมๆ กับการเพิ่มความเร็ว (Interval Training) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน และพัฒนาความฟิตของร่างกายได้มากขึ้น การวิ่งช้าหรือวิ่งเร็วแตกต่างกันอย่างไร? แล้วอันไหนดีกว่ากัน? การวิ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับเป้าหมายของผู้วิ่งได้ การวิ่งช้าหรือเร็วมีผลมากน้อยขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น หากต้องการให้ได้ประโยชน์ทั้งสองด้าน ผู้วิ่งสามารถนำเอาหลักการของการฝึกแบบช้าสลับเร็วหรือ Interval Training มาใช้ โดยการสลับระหว่างการวิ่งช้าๆ และการวิ่งเร็วๆ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ทั้งการลดไขมันและการเพิ่มความฟิตของร่างกายได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหรือปัจจัยอื่นที่อาจมีผลกระทบจากการวิ่ง เช่น โรคหัวใจ ปัญหาการหายใจ หรือข้อเจ็บปวดทางกล้ามเนื้อ ควรปรึกษากับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะเริ่มต้นการวิ่ง เพื่อความปลอดภัยและการป้องกันภาวะบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการออกกำลังกาย อ้างอิง ThaiSook I 2566

คาร์ดิโอ หรือ เวทเทรนนิ่ง ออกกำลังกายแบบไหนดีกว่ากัน?

การออกกำลังกายมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีออกกำลังกายในรูปแบบไหนก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกายของเราได้ โดยทั่วไปแล้ว การออกกำลังกายสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ คาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง ซึ่งแต่ละลักษณะนี้มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ออกกำลังกายได้ตามความต้องการและเป้าหมายที่ตั้งไว้ รูปแบบที่ 1 คาร์ดิโอ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับที่สูงกว่า 60% ของจุดที่รู้สึกเหนื่อยที่สุดและต่อเนื่อง โดยไม่มีการลดระดับลง เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นต้น โดยเป็นการให้กล้ามเนื้อทำงานอย่างต่อเนื่องในระยะเวลานาน ๆ ประมาณ 30 – 60 นาที ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ช่วยให้ระบบหัวใจและปอดทำงานเพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยในการลดน้ำหนักและเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะทำให้เกิดการเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ถ้าหากใช้เวลาในการออกกำลังกายที่เท่ากัน แต่การเผาผลาญพลังงานระหว่างการคาร์ดิโอนั้นจะขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราเลือกทำ และขึ้นอยู่กับความหนักเบาในการออกกำลังกายนั้นๆ ด้วย รูปแบบที่ 2 เวทเทรนนิ่ง การออกกำลังกายที่เน้นการเสริมแขน ขา ท้อง และกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกาย โดยใช้แรงของน้ำหนักจากอุปกรณ์ต่างๆ หรืออาจใช้น้ำหนักของร่างกายตัวเองก็ได้ในการเพิ่มแรงต้านทานให้กับกล้ามเนื้อ ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ช่วยเสริมสร้างและพัฒนากล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีแรงมากขึ้น ช่วยในการป้องกันการบาดเจ็บที่เกิดจากกิจกรรมทางกาย นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการลดน้ำหนัก … Read more

คุณค่าทางโภชนาการของผลไม้

การกินผลไม้ช่วยให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่จำเป็น ต่อการเจริญเติบโตและฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเหมาะสม นอกจากนั้น ผลไม้ส่วนมากจะมีใยอาหารสูงทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้าลง ซึ่งเป็นผลดี แตกต่างกับการกินคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลประเภทอื่น ที่ไม่มีใยอาหาร ดังนั้นผลไม้จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีในการเติมสารอาหารให้กับร่างกายของเรา คุณค่าทางโภชนาการในผลไม้ กล้วยน้ำว้า / Banana : กล้วยน้ำว้ามีคุณค่าอาหารสูงเพียง 1 ผลให้พลังงานถึง 59 กิโลแคลอรี 1 ส่วน = 1 ผลเล็ก = น้ำหนักส่วที่กินได้ 40 กรัม พลังงาน : 59 กิโลแคลอรีน้ำ : 25 กรัมน้ำตาล : 9 กรัมใยอาหาร : 0.9 กรัมเบต้าแคโรทีน : 22 ไมโครกรัมวิตามินซี : 4 มิลลิกรัมโพแทสเซียม : 128 มิลลิกรัม ขนุน / Jack fruit : ขนุนมีสารฟลาโวนอยด์และเบต้าแคโรทีน สามารถต้านไวรัสเริม และป้องกันการเกิดมะเร็ง … Read more

โปรแกรมโภชนาการเพื่อลดไขมัน

ThaiSook I 2566 โปรแกรมโภชนาการเพื่อลดไขมันมีไว้เพื่อช่วยควบคุมปริมาณและประเภทของอาหารที่คุณบริโภคเพื่อลดไขมันในร่างกายของคุณ โดยคุณสามารถควบคุมปริมาณแคลอรีที่คุณบริโภคและการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ในการลดไขมันได้ ดังนั้น โปรแกรมโภชนาการเพื่อลดไขมันควรเป็นแบบยืดหยุ่นและเหมาะกับความต้องการและสภาพร่างกายของคุณเสมอ เพื่อให้คุณสามารถรักษารูปแบบการกินได้ในระยะยาว และสามารถลดไขมันในร่างกายได้อย่างยั่งยืน การปรึกษากับนักโภชนาการหรือแพทย์ก็อาจจะช่วยให้คุณได้โปรแกรมที่เหมาะสม และปลอดภัยกับคุณที่สุด ข้อมูลจาก : ศูนย์สุขภาพดี รพ. พนมสารคาม

โปรแกรมโภชนาการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ThaiSook I 2566 โปรแกรมโภชนาการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกออกกำลังกายของคุณ จะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารที่เหมาะสม พอเพียงสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย ดังนั้นโปรแกรมโภชนาการเสริมสร้างกล้ามเนื้อควรปรับให้เหมาะสมกับร่างกาย หรือเป้าหมายของแต่ละบุคคล และระดับการฝึกออกกำลังกายของคนนั้น  อีกทั้งควรปรึกษากับนักโภชนาการหรือผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร การออกกำลังกายเพื่อให้โปรแกรมนี้เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณ วันนี้แอดมินจะมาแนะนำการคำนวณหาสัดส่วนสารอาหารที่เราควรได้รับต่อวัน โดยคำนวณได้จาก ค่า TDEE + 300 = พลังงานดีที่ควรได้รับต่อวัน   ; การหาค่า TDEE สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ (ที่นี่) สัดส่วนสารอาหาร ตัวอย่างการคำนวณสารอาหาร 1500 +300 = 1800 Kcal. สัดส่วนสารอาหาร สัดส่วนสารอาหารต่อ 1 มื้อ อาหารที่เรากินก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ การเลือกกินอาหารก็ควรที่จะเลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ และมีปริมาณที่เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันของเรา เพื่อความสมดุลระหว่างพลังงานที่รับกับพลังงานที่ใช้ สามารถดูตารางอาหารที่บอกถึงสารอาหารแต่ละชนิดที่เราจะได้รับจากอาหารที่เรากินได้จาก ข้อมูลจาก : ศูนย์สุขภาพดี รพ. พนมสารคาม

BMR คืออะไร เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักอย่างไร

Basal Metabolic Rate (BMR) หรือ ค่าที่บ่งบอกถึงพลังงานที่ร่างกายต้องการน้อยที่สุดในแต่ละวัน โดยสามารถคำนวณการเผาผลาญพลังงาน (BMR) เพื่อให้ระบบต่างๆ สามารถทำงานได้ แม้ในตอนที่เราอยู่เฉยๆ หรือไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ สูตรคำนวณอัตราการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจำวันคือ ตัวอย่างที่ 1สำหรับคุณ A เพศหญิง อายุ 24 ปี ส่วนสูง 162 ซม. น้ำหนัก 52 กก. ค่าที่ได้คือ 665 + (9.6 x 52) + (1.8 x 162) – (4.7 x 24) = 1,343 กิโลแคลอรี  499.2 +291.6 -112.8 จะสังเกตได้ว่าน้ำหนัก ส่วนสูงและอายุมีผลต่อการเผาผลาญพลังงาน เมื่อหาค่า BMR (Basal Metabolic Rate) มาแล้วเราก็จะสามารถรู้ได้ว่าเรามีการเผาผลาญพลังงานโดยไม่ทำกิจกรรมอะไรเลยเท่าไร แต่หากเรามีกิจกรรมอย่างออกกำลังกายจะมีการเผาผลาญพลังงานโดยคำนวณได้ดังนี้ … Read more

ตารางอาหารที่ให้สารอาหารประเภทไขมัน

การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก สิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงคืออาหารที่เรากิน การเลือกกินอาหารควรจะเลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ และมีปริมาณที่เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันของเรา เพื่อความสมดุลระหว่างพลังงานที่รับกับพลังงานที่ใช้ ถ้าหากเรากินมากเกินไป หรือกินเกินความต้องการของร่างกาย อาจจะส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้ เนื่องจากพลังงานส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้งานจะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปแบบของไขมัน ดังนั้น เราควรกินอาหารที่มีความหลากหลาย ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และได้รับสารอาหารที่ร่างกายต้องการครบถ้วน จากข้อมูล กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวไว้ว่า พลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวัน – ผู้ชาย : ที่ต้องการลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารเพื่อความปลอดภัย ตามคำแนะนำ ควรกินอาหารไม่น้อยกว่า 1,400 กิโลแคลอรี – ผู้หญิง : ที่ต้องการลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารเพื่อความปลอดภัย ตามคำแนะนำ ควรกินอาหารไม่น้อยกว่า 1,200 กิโลแคลอรี วันนี้แอดมินมีตารางอาหารที่บอกถึงสารอาหารแต่ละชนิดที่เราจะได้รับจากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภท เพื่อให้ทุกคนนำไปปรับใช้ในเลือกอาหารให้เหมาะสมกับการลดน้ำหนัก ตารางอาหารที่ให้สารอาหารประเภทไขมัน ต่อน้ำหนักอาหาร 100 กรัม ประเภทอาหาร พลังงาน ปริมาณโปรตีน ปริมาณไขมัน ปริมาณคาร์โบไฮเดรต น้ำมันมะกอก ( 1 ช้อนโต๊ะ) 121 0 13.5 … Read more