รู้หรือไม่ กินผลไม้ครบ 5 สี มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

ThaiSook I 2566

สารพฤกษเคมีในผลไม้

สารพฤกษเคมี (Phytochemicals) เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบในพืช ทำให้พืชผักและผลไม้มีสี กลิ่นและรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สารพฤกษเคมีที่พบในผลไม้ ได้แก่ สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ไลโคพีน คลอโรฟิลล์ แอนโทไซยานิน เป็นต้น กลุ่มผลไม้ 5 สี มีสารพฤกษเคมีที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้แตกต่างกันไป ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ผลไม้สีแดง/ชมพูอมม่วง

มีสารไลโคปีน (lycopene) และบีทาเลน (betalain) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และทำให้หัวใจแข็งแรง พบได้ใน แตงโม มะเขือเทศ แก้วมังกรเนื้อชมพู หัวบีท ตะขบ สตรอว์เบอร์รี ฝรั่งและมะละกอเนื้อสีแดง

ผลไม้สีน้ำเงิน/ม่วง

มีสารแอนโทไซยานิน (antocyanin) และกลุ่มโพลิฟีนอล (polyphenol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือด ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ผลไม้ในกลุ่มนี้ได้แก่ องุ่นแดง องุ่นม่วง ชมพู่มะเหมี่ยว ลูกหว้า ลูกไหน และลูกพรุน

ผลไม้สีเขียว

นอกจากมีสารคลอโรฟิลล์แล้ว ยังมีสารลูทีน (lutin) ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็งและลดการเสื่อมของจอประสาทตา ผลไม้ในกลุ่มนี้ได้แก่ ฝรั่ง อะโวคาโด พุทรา น้อยหน่า แตงไทย องุ่นเขียว ชมพู่เขียว แอปเปิลเขียวและมะกอกน้ำ

ผลไม้สีขาว/สีน้ำตาล

มีสารฟลาโวนอยด์หลายชนิด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดข้อเข่า พบมากในเนื้อและเปลือกมังคุด ฝรั่ง แอปเปิล แก้วมังกรเนื้อขาว และผลไม้อื่นๆ เช่น กล้วย ลางสาด ลองกอง เงาะ ลิ้นจี่

ผลไม้สีเหลือง/สีส้ม

มีสารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยต้านการอักเสบ และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันพบมากใน มะม่วงสุก มะละกอสุก กล้วย แคนตาลูปสีเหลือง สับปะรด เป็นต้น

การจัดกลุ่มผลไม้ตามที่จะทำให้ง่ายต่อการเลือกกินและจะได้รับสารพฤกษเคมีที่มีประโยชน์อย่างหลากหลาย มีข้อแนะนำให้พยายามกินผลไม้ครบทุกสีในแต่ละวัน แต่ทั้งนี้ต้องให้เหมาะสมกับฤดูกาลด้วย เพราะจะทำให้ได้ผลไม้ที่สดและราคาไม่แพง

อ้างอิง

ThaiSook I 2566