สารอาหารที่สำคัญในผลไม้ – กินผลไม้แล้วอ้วนไหม

ThaiSook I 2566

สารอาหารที่สำคัญในผลไม้

  1. ใยอาหาร คือ สารจากพืชที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยได้ใยอาหารมี 2 ชนิด คือ ชนิดที่ละลายน้ำ (soluble dietary fiber) และชนิดที่ไม่ละลายน้ำ (insoluble dietary fiber) การกินผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำช่วยเพิ่มปริมาณและน้ำหนักของอุจจาระ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการขับถ่าย ช่วยกระตุ้นกระบวนการขับถ่าย ทำให้ท้องไม่ผูก และปราศจากสิ่งสะสมอุจจาระที่เสี่ยงทำให้เกิดโรคทางเดินอาหารได้ เช่น ภาวะท้องผูก นอกจากนี้ ใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำยังสามารถดูดซับสารพิษได้ ทำให้มีการล้างของพิษและสารสะสมต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสุขภาพทางเดินอาหาร และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนใยอาหารที่ละลายน้ำช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และชะลอการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรต ทำให้การดูดซึมน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดช้าลง เป็นผลดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  2. ใยอาหาร ผลไม้มีใยอาหารที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยได้ใยอาหารมี 2 ชนิด คือ ชนิดที่ละลายน้ำ (soluble dietary fiber) และชนิดที่ไม่ละลายน้ำ (insoluble dietary fiber) ซึ่งช่วยในกระบวนการขับถ่าย, ลดความเสี่ยงของภาวะท้องผูก, และส่งผลดีต่อระบบทางเดินอาหาร และใยอาหารที่ละลายน้ำช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และชะลอการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรต ทำให้การดูดซึมน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดช้าลง เป็นผลดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  3. วิตามินและแร่ธาตุ ผลไม้มักมีปริมาณมากของวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น วิตามิน C, วิตามิน A, แคลเซียม, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, และฟอสฟอรัส ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน, การรักษาโครงสร้างของกระดูกและฟัน, การสร้างเนื้อเยื่อ และการรักษาสุขภาพต่างๆ ของร่างกาย
  4. พลังงาน คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล พลังงานในผลไม้ส่วนใหญ่มาจากคาร์โบไฮเดรต ผลไม้มีคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 10-35 ผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงมักจะมีรสหวานจัด
  5. น้ำ ผลไม้มีปริมาณน้ำสูงอยู่ระหว่าง 70-90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายเรารับน้ำเพียงพอและช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสด้วย

กินผลไม้แล้วอ้วนไหม

ผลไม้ทุกชนิดมีประโยชน์มากสำหรับสุขภาพ เช่น เพิ่มสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งอย่างไรก็ตาม หากบริโภคผลไม้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือมากเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น เป็นสาเหตุให้เกิดโรคอ้วน ดังนั้น การรับประทานผลไม้ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และมีความหลากหลาย  

คำแนะนำ ไม่ควรรับประทานผลไม้เกิน 3 ส่วนต่อวัน ในกรณีที่คุณต้องการควบคุมน้ำหนักหรือเป็นโรคเบาหวาน ควรรับประทานผลไม้ไม่เกิน 1 ส่วนต่อวัน  (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thaisook.org/2022/04/08/consumption-vegetable-fruit/ )  และควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน เงาะ ลำไย และขนุน เป็นต้น (สามารถดูคุณค่าทางโภชนาการในผลไม้เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thaisook.org/2023/05/09/fruit/) เพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย ควรกินผลไม้ในปริมาณที่พอดี และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของเราอย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง

ThaiSook I 2566