เทคโนโลยี + สุขภาพ: สมาร์ตวอทช์ / Wearable วัดสุขภาพได้จริงหรือ?

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาอยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น “สมาร์ตวอทช์” และ “อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearable)” กลายเป็นของที่หลายคนขาดไม่ได้ เพราะมันไม่ได้บอกเวลาอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังบันทึกก้าวเดิน อัตราการเต้นหัวใจ การนอน ไปจนถึงระดับความเครียด

คำถามคือ… ข้อมูลเหล่านี้ “เชื่อถือได้จริงแค่ไหน?”
แล้วเราควรใช้ wearable เป็นตัวช่วยสุขภาพแค่ไหนจึงจะเหมาะสม?


Wearable วัดสุขภาพได้ “จริง” ในหลายด้าน

งานวิจัยทั่วโลกพบว่าอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ มีความแม่นยำในระดับดี สำหรับ

  • อัตราการเต้นหัวใจ (Heart Rate) ข้อมูล HR ที่วัดจากเซนเซอร์บนข้อมือมีความแม่นยำ โดยเฉพาะขณะพักหรือทำกิจกรรมทั่วไป เช่น เดิน หรือออกกำลังกายเบาถึงปานกลาง เหมาะกับการดู “แนวโน้ม” สุขภาพหัวใจแบบวันต่อวัน
  • จำนวนก้าว / การเคลื่อนไหว ใช้เป็นมาตรวัดกิจกรรมประจำวันได้ นักวิจัยใช้ข้อมูลจำนวนก้าวเพื่อประเมินระดับกิจกรรมของประชากรจริง (real-world evidence)
  • ตรวจจับภาวะผิดปกติบางอย่าง (เช่น Atrial Fibrillation – AF) สมาร์ตวอทช์บางรุ่นตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ใกล้เคียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็น “เครื่องมือคัดกรองเบื้องต้น” ที่มีประโยชน์มาก
  • ติดตามรูปแบบในชีวิตจริง (Long-term Monitoring) เพราะใส่ได้ทั้งวัน wearable ช่วยให้เห็นเทรนด์สุขภาพ เช่น การนอน การพักผ่อน ความฟิต และการเปลี่ยนแปลงแบบสะสม

แม้จะเก่ง แต่ Wearable ก็ยัง ไม่ใช่อุปกรณ์การแพทย์ 100%

1. บางค่าความแม่นยำยังไม่ดีพอ เช่น

  • ความดันโลหิต
  • คุณภาพการนอน (ลึก/ตื้น/REM)
  • ระดับความเครียด

การวัดเหล่านี้อาศัยอัลกอริทึมที่แปลผลทางอ้อม ความแม่นยำจึงแปรผันตามรุ่น องศาการใส่ สีผิว การเคลื่อนไหว ฯลฯ

2. ไม่สามารถใช้วินิจฉัยโรคแทนแพทย์ Wearable ดีมากสำหรับดูเทรนด์ แต่ ไม่สามารถ ใช้ตัดสินว่าคุณ “เป็นโรค” หรือ “ไม่เป็นโรค”


✔ ใช้เพื่อติดตาม “แนวโน้ม” สุขภาพ เช่น ความฟิต การเคลื่อนไหว การนอน ความเครียดโดยรวม

✔ ใช้เพื่อกระตุ้นให้ปรับพฤติกรรม ตั้งเป้าก้าวเดิน นอนให้พอ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ

ใช้ร่วมกับการตรวจสุขภาพประจำปี

Wearable = ผู้ช่วย
แพทย์ = ผู้วินิจฉัย

✔ ถ้ามีการแจ้งเตือนผิดปกติ → ตรวจซ้ำด้วยวิธีมาตรฐาน เช่น ECG ในโรงพยาบาล


Wearable คือ ตัวช่วยสุขภาพที่ทรงพลัง หากเราใช้มันอย่างถูกวิธี

  • มันวัดได้จริงในหลายด้าน
  • มีประโยชน์กับการดูเทรนด์ระยะยาว
  • ช่วยปรับพฤติกรรม สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
    แต่ก็ต้องเข้าใจว่าข้อมูลไม่แม่นยำ 100% และไม่ใช่ผลตรวจแทนแพทย์

อ้างอิง