ไขมันในเลือดสูง ภัยเงียบที่คุณไม่ควรมองข้าม!

ไขมันในเลือดสูง หรือที่เรียกว่า ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ (Dyslipidemia) เป็นภาวะที่มีระดับไขมันในเลือดสูงเกินค่าปกติ ซึ่งไขมันในเลือดที่สำคัญได้แก่ คอเลสเตอรอล (Cholesterol) และ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ไขมันเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย แต่ถ้าระดับสูงเกินไปจะกลายเป็นภัยคุกคามสุขภาพอย่างรุนแรง


ไขมันในเลือดมีกี่ชนิด?

ไขมันในเลือดแบ่งได้เป็นหลายชนิด ได้แก่

  • LDL (Low-Density Lipoprotein) หรือ “ไขมันเลว” เพราะส่งผลให้เกิดการสะสมตามผนังหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
  • HDL (High-Density Lipoprotein) หรือ “ไขมันดี” ช่วยขนส่งไขมันที่ไม่ดีออกจากร่างกาย ทำให้ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
  • ไตรกลีเซอไรด์ เป็นไขมันที่สะสมจากการรับประทานอาหารมากเกินไป โดยเฉพาะน้ำตาลและไขมันอิ่มตัว

สาเหตุของไขมันในเลือดสูง

  1. พฤติกรรมการกินอาหาร — รับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ และน้ำตาลมากเกินไป เช่น ของทอด ของมัน ขนมหวาน
  2. ขาดการออกกำลังกาย — ทำให้ไขมันเลวสะสมในร่างกาย
  3. น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน — มีผลต่อการสะสมไขมันในเลือด
  4. กรรมพันธุ์ — บางคนมีความเสี่ยงสูงโดยกำเนิด
  5. โรคประจำตัวบางชนิด — เช่น เบาหวาน ไตวาย หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ

อันตรายจากไขมันในเลือดสูง

ถ้าไม่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง ไขมันในเลือดสูงสามารถนำไปสู่โรคต่างๆ ดังนี้

  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease) ไขมันไปเกาะที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้น้อย เกิดอาการเจ็บหน้าอก และอาจนำไปสู่หัวใจวาย
  • โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เกิดจากการอุดตันหรือแตกของหลอดเลือดในสมอง ทำให้สมองขาดเลือดและเกิดความเสียหาย
  • โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงทำให้หลอดเลือดหนาและแข็งตัว ส่งผลให้ความดันเลือดสูงขึ้น
  • โรคเบาหวาน ไขมันสูงมักสัมพันธ์กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
  • ตับไขมัน (Fatty Liver Disease) ไขมันสะสมในตับมากเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบและอาจลุกลามเป็นตับแข็งได้

อาการของไขมันในเลือดสูง

ไขมันในเลือดสูงมักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก จนกว่าจะเกิดโรคแทรกซ้อน แต่บางคนอาจพบอาการดังนี้

  • ปวดหัว วิงเวียน
  • เหนื่อยง่าย
  • เจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก
  • มีจุดหรือก้อนไขมันใต้ผิวหนังบริเวณเอว ข้อศอก หรือรอบดวงตา (Xanthomas)

วิธีป้องกันและดูแลไขมันในเลือดสูง

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร
    • เลือกอาหารที่มีไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก ปลาแซลมอน ถั่ว และอะโวคาโด
    • ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ เช่น ของทอด ของมัน
    • ลดการบริโภคน้ำตาลและอาหารแปรรูป
  2. ออกกำลังกายเป็นประจำ
    • เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
  3. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  4. เลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์
  5. ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อวัดระดับไขมันในเลือด และรับคำแนะนำจากแพทย์
  6. รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ ในกรณีที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงมากหรือมีโรคแทรกซ้อน

ไขมันในเลือดสูงเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้เกิดโรคร้ายแรงหลายชนิด การรู้เท่าทันและป้องกันด้วยการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่แข็งแรงในระยะยาว

อ้างอิง

Leave a Comment