ในโลกที่เต็มไปด้วยมาตรฐานความงาม ทั้งจากโซเชียลมีเดีย โฆษณา หรือแม้กระทั่งคำพูดของคนใกล้ตัว ภาพลักษณ์ของตนเองกลายเป็นสิ่งที่หลายคนรู้สึก “ต้องแก้ไข” มากกว่าจะ “ยอมรับ” ปัญหาคือ เมื่อภาพในใจไม่ตรงกับความเป็นจริง มันสามารถนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติอย่างไม่รู้ตัว เช่น การอดอาหาร กินไม่หยุด หรือการใช้ยาลดน้ำหนัก บทความนี้ไม่ได้แค่บอกเล่าแนวคิด แต่จะชวนคุณ สำรวจตัวเอง ผ่านกิจกรรม และให้คำแนะนำที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
Body Image คืออะไร ?
Body Image หมายถึงการรับรู้ ความคิด ความรู้สึกที่เรามีต่อร่างกายของตัวเอง ซึ่งรวมถึง
– รูปร่าง (อ้วน-ผอม)
– สีผิว
– ขนาดสัดส่วน
– การเปรียบเทียบกับคนอื่น
✨ ทดสอบตัวเองง่าย ๆ แค่ตั้งคำถามว่า “ฉันรู้สึกอย่างไรกับตัวเอง ?”
หยิบกระดาษขึ้นมา แล้วตอบคำถามต่อไปนี้ด้วยความซื่อสัตย์
1. ฉันรู้สึกอย่างไรเมื่อมองตัวเองในกระจก ?
2. ถ้าต้องบรรยายร่างกายของตัวเองด้วย 3 คำ จะเป็นคำว่าอะไร ?
3. ฉันเคยเปรียบเทียบรูปร่างของตัวเองกับใครบ้าง? แล้วรู้สึกอย่างไร ?
Eating Behavior คืออะไร ?
Eating Behavior พฤติกรรมการกิน คือ รูปแบบการเลือกอาหาร การกิน และการควบคุมอาหารของเรา ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ เช่น
ประเภทพฤติกรรม | ลักษณะ | ผลกระทบ |
---|---|---|
กินแบบสมดุล | ฟังความหิว อิ่มพอดี | สุขภาพดีทั้งกายและใจ |
กินตามอารมณ์ (Emotional Eating) | กินเมื่อเครียด เหงา หรือเบื่อ | อ้วนง่าย ควบคุมน้ำหนักยาก |
อดอาหาร | จำกัดการกินเพราะกลัวอ้วน | ขาดสารอาหาร ซึมเศร้า |
Binge Eating | กินมากเกินควบคุมในเวลาสั้น ๆ | โทษตัวเอง วิตกกังวล |
🔍 คุณเป็นแบบไหน ?
ลองจดบันทึกการกินของคุณในช่วง 3 วัน ว่ากินอะไร กี่โมง และมีอารมณ์อย่างไรในขณะนั้น แล้วลองสังเกตพฤติกรรมซ้ำ ๆ
ความเชื่อมโยงระหว่าง Body Image กับพฤติกรรมการกิน
การมองภาพร่างกายของตัวเองในแง่ลบ อาจนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่ไม่สมดุล เช่น
– วัยรุ่นที่ไม่พอใจในรูปร่างมัก ใช้วิธีลดน้ำหนักผิดวิธี
– บางคน รู้สึกผิดทุกครั้งที่กินอาหารอร่อย
– บางคนหลีกเลี่ยงการกินร่วมกับผู้อื่น เพราะ กลัวโดนวิจารณ์รูปร่าง
แนวทางปรับมุมมองและสร้างสุขภาพที่ดี
1. เรียนรู้ที่จะ มองร่างกายแบบไม่ตัดสิน
กิจกรรม : ทุกเช้า เมื่อคุณมองกระจก ให้พูดกับตัวเองว่า “ร่างกายนี้พาฉันมาไกล และฉันรู้สึกขอบคุณ”
2. ปรับวิธีคิดต่ออาหาร
– อาหารไม่ใช่ “รางวัล” หรือ “โทษ”
– เลือกอาหารที่มีคุณค่า ไม่ใช่แค่แคลอรี่ต่ำ
3. หยุดเปรียบเทียบตัวเอง กับคนในโซเชียล
ลองทำ : ลบ หรือซ่อนบัญชีที่ทำให้คุณรู้สึกแย่ กับรูปร่าง และติดตามบัญชีที่ส่งเสริมการรักตัวเอง เช่น #BodyPositivity
4. ขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกผิดปกติ
หากคุณรู้สึกเครียดเมื่อกินอาหาร รู้สึกผิดหลังการกิน หรือหมกมุ่นกับรูปร่างจนเสียการใช้ชีวิต ลองพูดคุยกับนักจิตวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมการกิน
ภาพลักษณ์ของร่างกายไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่เรามองเห็นจากภายนอก แต่เป็นกระจกสะท้อนจิตใจของเรา ความรู้สึกไม่พอใจในรูปร่างอาจเปลี่ยนวิธีการกินของเราอย่างไม่รู้ตัว การเรียนรู้ที่จะยอมรับร่างกาย และเลือกพฤติกรรมการกินที่เคารพตัวเอง คือกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพที่ดีทั้งกาย และใจ
ThaiSook เพื่อคนไทยสุขภาพดี มีความสุข
อ้างอิง
Thai JO สืบค้นจาก การศึกษาปัจจัยจิตสังคมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการลดน้ำหนักที่เหมาะสมของวัยรุ่น
Thai Science สืบค้นจาก Eating Attitudes and Body Image Dissatisfaction among Thai Adolescents
Science Direct สืบค้นจาก Body Image