รูปแบบการทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน

โดยทั่วไปการทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนจะเน้นไปที่อาหารที่มีกากใยสูง, ผัก, ผลไม้, และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ โดยมีน้ำมันมะกอกเป็นแหล่งไขมันหลัก จากงานวิจัยต่างๆ แสดงให้เห็นว่าการทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียนนั้นสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และโรคอื่นๆ รวมไปถึงช่วยในเรื่องควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย แต่อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนนั้นมีทั้งข้อดี และข้อเสียเช่นกัน ดังนั้นการเข้าใจลักษณะอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนอาจจะสามารถช่วยให้เราวางแผนการกิน และการซื้อของได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  

อาหารเมดิเตอร์เรเนียนคืออะไร?

อาหารเมดิเตอร์เรเนียนเป็นวิธีการรับประทานอาหารตามวัฒนธรรมการทานอาหารแบบดั้งเดิมของประเทศที่อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่น อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส เป็นต้น โดยอาหารเมดิเตอร์เรเนียนเป็นการทานเพื่อสุขภาพ มุ่งเน้นไปที่ธัญพืชไม่ขัดสี ไขมันดี (ปลา น้ำมันมะกอก ถั่ว ฯลฯ) ผัก ผลไม้ ปลา และการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ใช่ปลาในปริมาณที่น้อยมาก

ลักษณะอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน

การทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนของแต่ละคนอาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเป้าหมาย และความต้องการของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนจะประกอบด้วยธัญพืช ผักและผลไม้ รวมถึงปลา พืชตระกูลถั่ว และหาได้ง่ายทั่วไป ตารางด้านล่างจะเป็นการแนะนำเป้าหมาย ปริมาณ และเคล็ดลับการทานอาหารแต่ละชนิด สามารถนำไปปรับเมนูประจำวันต่างๆ ของเราได้ และอาจกำหนดสัดส่วนได้ชัดเจนและทำให้ง่ายยิ่งขึ้น

อาหารเป้าหมาย ปริมาณ (1 ส่วน)เคล็ดลับ
ผักและผลไม้สดผลไม้: 2 ส่วนต่อวัน
ผัก: อย่างน้อย 3 ส่วนต่อวัน
– ผลไม้: ½ ถึง 1 ถ้วย
– ผักสุก 1/2 ถ้วย
– ผักสด 1 ถ้วย
รับประทานผักอย่างน้อย 1 ส่วนต่อมื้อ และเลือกทานผลไม้เป็นของว่างแทนขนม
ธัญพืชและผักที่มีแป้ง (มันฝรั่ง ถั่วลันเตา และข้าวโพด)3 ถึง 6 ส่วนต่อวัน– ธัญพืช ½ ถ้วย
– ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ทัพพี
– ขนมปัง 1 แผ่น
เลือกข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ หรือข้าวกล้อง ขนมปังโฮลเกรน หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตขัดสี และอาหารแปรรูป
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษปรุงอาหาร (Extra virgin olive oil)1 ถึง 4 ส่วนต่อวัน1 ช้อนโต๊ะใช้แทนน้ำมันพืชและไขมันสัตว์ (เนย, ครีม, มายองเนส) ราดบนสลัด ผักปรุงสุก
พืชตระกูลถั่ว3 ส่วนสัปดาห์ครึ่งถ้วยเพิ่มลงในแต่ละมื้ออาหาร
ปลา3 ส่วนต่อสัปดาห์85–90 กรัมเลือกปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน แฮร์ริ่ง ทูน่า เป็นต้น
ถั่วอย่างน้อย 3 ส่วนต่อสัปดาห์– ถั่ว ¼ ถ้วย
– เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
ตามหลักการแล้ว ให้เลือกวอลนัต อัลมอนด์ และเฮเซลนัต เพิ่มในสลัด และโยเกิร์ต เลือกถั่วคั่วแบบดิบ ไม่ใส่เกลือ และแบบแห้ง 
สัตว์ปีกไม่เกินวันละส่วน (น้อยกว่านี้อาจจะดีกว่า)85 กรัมเลือกเนื้อขาวแทนเนื้อสีเข้ม กินแทนเนื้อแดง เลือกสัตว์ปีกที่ไม่มีหนังหรือเอาหนังออกก่อนปรุงอาหาร อบ ย่าง หรือย่าง
ผลิตภัณฑ์นมไม่เกินวันละส่วน (น้อยกว่านี้อาจจะดีกว่า)– นมหรือโยเกิร์ต 1 ถ้วย
– ชีสธรรมชาติ 1 ½ ออนซ์
เลือกชีสไขมันต่ำตามธรรมชาติ เลือกนม และโยเกิร์ตไร้ไขมันหรือ 1%  เช่น นมข้าวโอ๊ต งาดำ ถั่ว หลีกเลี่ยงนมไขมันสูง ครีม ซอส และน้ำสลัดที่ทำจากครีม
ไข่ 1 ไข่แดงต่อวันไข่ 1 ฟอง
(ไข่แดง + ขาว)
ลดปริมาณไข่แดง ไม่จำกัดปริมาณไข่ขาว หากคุณมีคอเลสเตอรอลสูง ควรรับประทานไข่แดงไม่เกิน 4 ฟองต่อสัปดาห์
เนื้อแดง (เนื้อวัว หมู เนื้อลูกวัว และเนื้อแกะ)ไม่บริโภค หรือไม่เกิน 1 ส่วนต่อสัปดาห์85 กรัมเลือกเฉพาะเนื้อไม่ติดมัน เช่น เนื้อสันใน เนื้อสันนอก
ไวน์ (ไม่จำเป็น)1 แก้วต่อวัน (ผู้หญิง)  2 แก้วต่อวัน (ผู้ชาย)1 แก้ว
(3 ½ ออนซ์)
บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ และผู้ที่มีประวัติการติดสุราควรหลีกเลี่ยง
ขนมเบเกอรี่และของหวานหลีกเลี่ยงขนมอบและของหวานที่มีน้ำตาล หรือทานได้ไม่เกิน 3 ชิ้นต่อสัปดาห์แตกต่างกันไปตามประเภทให้เลือกท่านผลไม้ และโยเกิร์ตที่ไม่มีไขมัน หรือถั่วแทน 

อ้างอิง

ThaiSook